นักโทษโรคจิต (ตอนที่ 1)

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องสมมติ มิได้อ้างอิงอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศใดมาเป็นแบบอย่างทั้งสิ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาระหว่างจิตแพทย์ กับ Mr. Takki Shinegra (นามสมมติ) โดยจรรยาแพทย์จึงไม่สามารถเปิดเผยชื่อจริงได้

Psychiatrist: เชิญครับ วันนี้มีปัญหากลุ้มใจอะไรเหรอครับ?
Takki: มันเครียดโว้ย โลกมันโคตรไม่ยุติธรรม มันทำกันอย่างนี้ได้ไงวะ กว่าจะซื้อมาได้ขนาดนี้ กูเหนื่อยแทบตาย เม้งมายึดกันดื้อๆ เลวฉิบหาย
P: ใจเย็นๆ ครับ ค่อยๆ เล่าช้าๆ ครับ
TS: เย็นยังไงไหววะ ทั้งปลอบก็แล้ว ทั้งขู่ก็แล้ว ลองเจรจาดูก็แล้ว พวกเจ้าหลักการกันทั้งนั้น ไม่เห็นใจกูบ้างเลย
P: เรามาเริ่มจากต้นตอของปัญหาดีมั้ยครับ?
TS: ขี้เกียจเล่าว่ะ มึงไปหาอ่านตามหนังสือพิมพ์เองสิวะ
P: อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิครับ การเล่าระบายความไม่สบายใจออกมา จะช่วยคลายความเครียดลงได้นะครับ
TS: ยุ่งยากจริงวุ้ย เอาอย่างมึงว่าก็ได้ จะให้กูเล่าอะไรล่ะ
P: คุณบอกว่ามีคนจะมายึดของของคุณ เขาจะมายึดอะไรเหรอครับ?
TS: ประเทศของกูน่ะสิ
P: ยึดประเทศของคุณ?
TS: ก็ประเทศ T น่ะสิ ไม่ต้องมาแกล้งโง่เลย
P: คุณบอกว่าเป็นเจ้าของประเทศ T ช่วยขยายความนิดได้ไหมครับ?
TS: ไม่เห็นยาก ก็กูซื้อผู้แทนในสภาเกินครึ่ง ก็ได้เป็นนายกฯ จากนั้นก็โยกย้ายพวกลูกสมุนมาคุมหน่วยงานราชการต่างๆ ยิ่งตำรวจไม่ต้องพูดถึง อยากทำอะไรขยิบตาทีก็ทำให้แล้ว พวกบอร์ดเบิด รัฐวิสาหกิจ ตลาดหุ้น ก็คุมได้หมดแล้ว ศาลก็กะว่าจะซื้ออยู่ แต่คิดเอาเองว่าซื้ออัยการกับตำรวจไว้แล้วก็จบ เรื่องไม่ถึงศาลอยู่แล้ว
P: คุณกำลังบอกว่าได้ลงทุนลงแรงมามาก เพื่อซื้อประเทศ T
TS: กว่าจะสร้างเครือข่ายได้ขนาดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ นะเฟ้ย
P: ทำไมถึงอยากได้ประเทศ T ล่ะครับ? เอาเงินเอาแรงที่ลงทุนไปทำธุรกิจปกติไม่ง่ายกว่าหรือครับ
TS: โอ้ย เอ็งนี่ ไม่รู้โง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่... ไม่รู้เหรอประเทศ T เนี่ย จะทำธุรกิจใหญ่ๆ ให้สำเร็จเนี่ยต้องใต้โต๊ะ คือต้องมีคนในรัฐบาล หรือหน่วยงานราชการช่วย ไม่งั้นคิดเหรอว่าบริษัทโทรคมนาคมของอดีตตำรวจที่เรียนเกี่ยวกับระบบยุติธรรม จะได้สัมปทานระบบมือถือจากรัฐ
คิดแล้วก็ตลก กูไปหาเสียงกับชาวบ้านว่า รวยแล้วไม่โกง พวกมันไม่เคยสงสัยเลยว่าที่รวยมาเนี่ยก็เพราะโกงมา ฮ่าๆ ฮ่าๆๆ โอ้ย ซะใจว่ะ
P: ... ก็คือคิดว่าทำธุรกิจยังไงก็ต้องจ่ายนักการเมือง จ่ายข้าราชการอยู่แล้ว ก็เลยซื้อมันทั้งหมดซะเลย เป็นการจ่ายครั้งเดียว อย่างนั้นหรือครับ?
TS: อืมม เอ็งนี่หัวไวดีนะ ถ้าอยากเปลี่ยนงานเมื่อไหร่มาคุยกันได้นะ
P: กลับมาเรื่องของคุณต่อดีกว่า คุณบอกว่าเคยคุมอำนาจทั้งหมดของประเทศ T ไว้ได้ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นครับ
TS: มันเริ่มจากไอ้แป๊ะคนนึงว่ะ มันขวางโลก กูจะบริหารประเทศที่กูซื้อมายังไงมันก็เรื่องของกู แต่มันเสือกมาตั้งแง่กับกู หาว่าโกง หาว่าขายชาติ เอ๊ะ ก็ชาติของกู กูจะโกง จะขายยังไง แล้วมันไปหนักหัวใครวะ กูก็ทำหูทวนลม นักข่าวถามก็ไม่ตอบ บอกว่าถามไม่สร้างสรรค์ ก็คิดว่ามันจะเงียบไป แต่คิดไม่ถึงว่ามีพวกหัวหมออยู่เยอะเหมือนกัน มันไปรวมก๊วนกัน แล้วหาเรื่องด่ากูอยู่ทุกวัน ยิ่งคิดยิ่งโกรธเว้ย
P: ดีครับๆ เริ่มเข้าสู่แก่นแท้ของปัญหาแล้ว
TS: แก่น เกิ่น อะไรวะ ไอ้ตี๋ลิ้มคนเดียวข้าไม่กลัวหรอกเว้ย แต่ก็จริงอยู่ ถ้าไม่มีมันเรื่องคงไม่บานปลายขนาดนี้ รู้งี้ยิงมันทิ้งตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง
P: ใจเย็นๆ ครับ วันนี้เรามาคุยกัน เพื่อเค้นปัญหาออกมา ต่อจากนั้นก็ค่อยๆ แก้กันไป... ตอนนี้เรารู้แล้วว่าคุณลิ้ม เป็นคนเริ่มก่อปัญหาใช่ไหมครับ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นครับ
TS: เอ็งจะเอาแบบยาว หรือแบบย่อล่ะ
P: ตามใจครับ จะแบบย่อก็ได้ แล้วถ้าเจอประเด็นที่เป็นปัญหาเราค่อยเจาะลึกลงไปดีไหมครับ?
TS: เออ ก็ดี จะได้ไม่เสียเวลากู เดี๋ยวต้องไปตามโปรเจ็คระบือป่วนาติของลูกน้องอีก ใกล้วันตัดสินแล้ว เลยกะทุ่มทุนสร้างสักหน่อย
P: ที่จริงไม่ควรหมกมุ่นกับเรื่องที่ทำให้เครียดมากไป มันจะยิ่งทำให้สภาพจิตใจแย่ลงนะครับ
TS: มันเรื่องของกู อย่ามาเสือกได้มะ ที่มาคุยกะมึงเพราะช่วงหลังไม่มีที่ระบายอารมณ์เว้ย มึงไม่ต้องมาชี้แนะอะไรกู
P: ใจเย็นๆ ครับ อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย ผมแค่เป็นห่วงสุขภาพของคุณ เพราะความเครียดมันทำให้ร่างกายอ่อนแอ หรือเป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายนะครับ พักกันสักแป๊บละกันครับ จะได้ลองดื่มชาสมุนไพรด้วย ดื่มแล้ว จะช่วยให้ผ่อนคลายนะครับ
TS: อืมม... กลิ่นหอมดีนี่

โปรดติดตามตอนจบในวันอาทิตย์

No comments:

Post a Comment