ควันหลงจากบทความ "แฟนเก่า"

วันนี้ขอนำควันหลงจากบทความวันก่อนที่บอกว่าจะเลิกพูดถึงแฟนเก่ามาฝาก ซึ่งคุณ Sirarat ได้นำไปโพสต์ไว้ในไดอารี่ (ขอบคุณครับ เรียกแขกได้เยอะเลยครับ :-) จนทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างเมามัน ในฐานะที่เป็นต้นเหตุของประเด็นวิวาทจึงขอนำมาประจานบอกเล่ากันฟัง ณ ที่นี้ด้วย

ที่มาที่ไปคือ ข้อความตอนหนึ่งในบทความนี้ ที่ผมเขียนไว้ว่า

เขาว่ากันว่าวิธีลืมแฟนเก่าที่ดีที่สุด -- โดยเฉพาะถ้าแฟนคนนั้น สูบกินเลือดเรา หลอกใช้เรา โกหกปลิ้นปล้อนวันละสามเวลา และแม้เลิกกันแล้วก็ยังตามรังควาญ ให้ร้ายกันอยู่ไม่รู้จักหยุด -- ก็คือหาแฟนใหม่ที่ดีกว่า

ฉะนั้นหลังจากนี้ ผมว่าจะเลิกพูดถึงนายแม้ว แล้วหันมาชื่นชมแฟนใหม่ของเราดีก่า เนอะพี่มาร์คเนอะ <3

ซึ่งคุณ Sirarat นำไปบอกเล่ากันฟังในไดอารี่ เป็นเหตุให้คุณ "โง่แต่อวดฉลาด" เกิดอาการไม่พอใจจึงมาเขียนความเห็นทิ้งไว้โดยสรุปใจความได้ด้งนี้ (สามารถตามไปอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่)

... ถ้าหากเราเป็นคนบอกเลิก แฟนเราโดยขาดความชอบธรรม คือ เราอาจจะ คบชู้ ผิดสัญญา เสียคำพูด ตระบัตสัตย์ หรือเล่นไม่ซื่อ คือทำอะไรก็ตามที่ไม่ควรทำ ให้เขาเสียใจ ทำให้ได้ทุกวิถีทาง เพียงเถื่อจะได้บอกเลิก กับแฟนเก่าก็พอ
ที่นี่
แบบนี้ ถ้าเลิกกันไป แล้วแฟนเก่า เรามีสิทธิ์จะรังควาน (สะกดด้วย น.หนูนะคะ) ไหมคะ

<Head Chef> ขอบคุณที่ชี้แนะการสะกดที่ถูกต้องครับ ได้มีการแก้ไขในต้นฉบับแล้ว

คุณ Sirirat ก็หวังดีครับ แนะนำให้มาแสดงความคิดเห็นในบล็อคนี้ แต่ก็ไม่เห็นมา (เฮ้อ สงสัยจะเรียกแขกไม่ได้จริงๆ...) ได้แต่ทิ้งทวนไว้ว่า

...ส่วนจะให้ไปเถียงคุณเจ้าของ ข้ออุปมาดังกล่าว นั้น ดิฉันคงไม่ไปหรอกค่ะ

เพราะเถียง ไปก็ไม่รู้จะคุยกันรู้เรื่องไหม กลัวประการหนึ่ง

และเถียงไปก็คงไม่ได้ตังค์ + ตอนนี้ ณ เวลานี้ ไม่มี "อารมณ์จะไปแอ๊บมีเหตุผ"ลปเถียง ประการที่สองและสามตามลำดับ

<HC> ตัวหนานั้นผมใส่เองครับ ถ้าอยากเถียงแล้วได้ตังค์เชิญไปหน้าทำเนียบนะครับ เห็นว่ากำลังขาดคน คิกๆ

ผู้อ่านท่านหนึ่ง คุณ อ้อม ◕‿◕ ได้ให้ความเห็นตอบไว้ว่า

ก่อนที่อ้างถึงความ "ชอบธรรม"
ลองนึกถึงคำว่า "คุณธรรม" ก่อนดีมั้ย
ถ้าการกระทำของ "มัน" ยึดหลักคุณธรรมมาตั้งแต่ต้น
ก็คงไม่ต้องมากระโดดเหยงๆ เรียกหาความ
"ชอบธรรม" อย่างนี้หรอก...

แล้วความชอบธรรมก็อยู่ที่ประเทศไทย
ถ้าอยากได้นัก ก็กลับมาเอาดิ่

<HC> สะใจมากครับ

คุณ Sirarat ก็ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ในบันทึกครั้งถัดมา โดยอุปมาเป็นสถานการณ์ระหว่างผัวเมียไว้ว่า (หาอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่)

... แต่ที่รู้กันสองคนผัวเมียเนี่ย คือ ตาผัวเนี่ย นอกจากจะสูบกินเลือดเมีย หลอกใช้เมีย โกหกปลิ้นปล้อนวันละสามเวลา เอาสินสมรสที่ได้หลังจากแต่งงานแล้ว ไปให้อิหนูแถวเกาะกง หลังๆหนักข้อขึ้นมาเรื่อยๆถึงขั้นซ้อมเมียเจียนตาย บังเอิ๊ญญญญญ บังเอิญ บุญนังเมียยังดีอยู่ มีปู้จายแฟนเก่าที่แอบหลงรักนังเมียมานานแสนนานแล้ว แอบติดตามดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ จนวันที่นังเมียโดนซ้อมเจียนตายแล้ว ก็ทนไม่ได้ โผล่มาทำพระเอก ไล่ตาผัวออกจากบ้าน (หล่อกว่า ใหญ่กว่า ก็ดีเงียะ กี๊ดดดซ์) แล้วก็พานังเมียไปแจ้งความ ไล่มันมาทุกกระทง งุบงิบสินสมรส ทำร้ายร่างกาย จดทะเบียนซ้ำซ้อนกะอิหนูเกาะกง หลักฐานพยานมันก็ทนโท่ หน้าบวม ตาแหก ปากฉีกซะขนาดนั้น พยานก็มี ป่านนั้นต่อให้ตาผัวมันมาบอกว่า เก๊าะอินี่มันทำกับข้าวชักช้าคับหมู่ ผมกลับบ้านมาหิวๆ เลยโมโหดีดแข้งไปไม่ได้ตั้งใจจริงจริ๊งงงงง ก็คงไม่ได้ทำให้สภาพร่องรอยการโดนซ้อมของเมียดีขึ้นมาได้ ตำรวจก็เลยออกหมายเรียก ตาผัวก็เจือกป๊อด หนีไป ก็ทำเมียหน้าแหกเปิกสู้หน้าใครไม่ได้จริงๆ หนำซ้ำยังมาปอกลอกจนเมียหมดตัว ทุกวันนี้ก็ยังไม่กล้ากลับบ้านเลยเนี่ย

เมียก็เลยยื่นถอดถอนทะเบียนสมรสที่ศาล ...

ส่วนตาผัวก็วิ่งไปไล่ตีฆ้องร้องป่าว ร้องแรกแหกกระเฌอ ฟ้องบ้านข้างๆ ลามไปหมู่บ้านข้างๆ ฟ้องมันไปทั่ว แต่ไม่ยอมไปบอกตำรวจแฮะ ว่านังเมียทอแรหรือเปล่า ยังไง ตำรวจเรียกให้ไปสืบพยาน ก็ไม่ไป บ้านก็เข้าไม่ได้แล้วเนี่ย เพราะผัวใหม่ดีกว่า ใหญ่กว่า หล่อกว่า เป็นฟองมากกว่าา อ่าา อ่าาา กรั่กๆๆๆ ...

<HC> เขียนได้ตลาดสะใจมากครับ น่าจะเอาไปทำเป็นละครน้ำเน่าช่อง NBT

ก็คงไม่ต้องเขียนเพิ่มเติมมากเพราะทั้งสองท่านได้พูดไปหมดแล้ว มันไม่ใช่การเลิกกันอย่างไม่ชอบธรรม หากแต่เริ่มจากการเตือนอย่างหวังดี หวังว่าเขาคงจะกลับใจได้ จนออกมาว่ากันในที่สาธารณะ จนกระทั่งตั้งเวทีสาธยายความชั่วที่สะพานมัฆวานฯ ก็ยังไม่ปรับปรุงตัว...

1 comment:

  1. "ถ้าอยากเถียงแล้วได้ตังค์เชิญไปหน้าทำเนียบนะครับ เห็นว่ากำลังขาดคน คิกๆ"

    ประโยคเดียว สรุปได้ทุกประเด็นเลยค่ะ

    เกือบสำลักไก่ทอดหลุดมาทางจมูก

    ฮ่าๆๆๆ

    ReplyDelete